อาการ ต่อมน้ำลายอักเสบ เสี่ยงต่อใบหน้าผิดรูป!
อาการต่อมน้ำลายอักเสบเป็นอีกหนึ่งโรคที่ทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ลำบาก ขาดความมั่นใจในตัวเองเพราะจะทำให้ใบหน้าเกิดอาการผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด อาการเหล่านี้เกิดมาจากการอักเสบของต่อมน้ำลาย การติดเชื้อแบคทีเรียหรือการติดเชื้อไวรัส วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักอาการ “ต่อมน้ำลายอักเสบ” ให้กระจ่างชัดมากยิ่งขึ้น
ทำความเข้าใจกับต่อมน้ำลาย
ต่อมน้ำลายมีความสำคัญกับร่างกายของคนเราเป็นอย่างมากเพราะทำหน้าที่ผลิตน้ำลายเข้าสู่ร่างกายเพื่อให้บริเวณช่องปากไม่เกิดภาวะขาดน้ำ ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยต่อมน้ำลายในร่างกายมนุษย์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิดได้ดังนี้ Parotid gland สามารถพบได้บริเวณกกหู Submandibular gland สามารถพบได้บริเวณขากรรไกรล่าง หรือ Sublingual gland สามารถพบได้บริเวณใต้ลิ้น
“ต่อมน้ำลายอักเสบ” เกิดมาจากสาเหตุอะไรบ้าง ?
- การติดเชื้อไวรัส โดยส่วนมากจะมาจากโรคคางทูม ไข้หวัดใหญ่ หรือ โรคเริม ซึ่งจะทำให้ต่อมน้ำลายบริเวณช่องปากเกิดอาการอักเสบ
- การติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus Aureus จะพบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการต่อมน้ำลายอักเสบ โดยแบคทีเรียชนิดนี้เป็นแบบติดสีแกรมบวก มีรูปทรงกลมเหมือนกับองุ่นเขียว ซึ่งส่วนมากจะปนเปื้อนมากับอาการที่เรากินกันในชีวิตประจำวันทำให้ต่อมน้ำลายเกิดอาการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือ ปวดศีรษะ เป็นต้น
- ภาวะขาดน้ำ เมื่อร่างกายขาดน้ำจะทำให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายได้น้อยและเกิดอาการอักเสบได้
- นิ่วในต่อมน้ำลาย เป็นอุปสรรคที่ทำให้น้ำลายเดินทางเข้าสู่ปากไม่ได้ ทำให้บริเวณปากเกิดอาการขาดน้ำและเกิดต่อมน้ำลายอักเสบ
- การรักษาสุขอนามัย ถือเป็นสิ่งที่สำคัญกับช่องปากมาก เพราะในหนึ่งวันเราต้องใช้ช่องปากเพื่อทานอาหารหลากหลายชนิด บางชนิดอาจจะเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่ปะปนมา หากปล่อยปะละเลยไม่ดูแลสุขภาพช่องปากจะทำให้เสี่ยงเกิดต่อมน้ำลายอักเสบได้
- สูบบุหรี่ เนื่องจากความร้อนของควันบุหรี่จะทำให้ต่อมน้ำลายที่มีขนาดเล็กเกิดอาการอักเสบได้
- โรคแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น โรคเอดส์ โรคเบาหวาน หรือ โรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม เป็นต้น
อาการของ “ต่อมน้ำลายอักเสบ” สามารถสังเกตได้จากอะไรบ้าง ?
- มีอาการหนาวสั่นคล้ายจะเป็นไข้ หรือมีไข้สูงแบบกะทันหัน
- ใบหน้าเกิดอาการบวมในบริเวณปาก หรือ คาง
- คอเกิดอาการบวม
- เจ็บปวดบริเวณใบหน้า เช่น กราม ปาก หรือ ใบหู
- มีตุ่มหนองบริเวณในช่องปาก
- เกิดภาวะขาดน้ำ ปากแห้งแตกและเกิดอาการเจ็บคอ
- ไม่สามารถอ้าปากได้เต็มที่เหมือนปกติ
- ไม่สามารถรับรู้รสชาติได้ หรือต่อมรับรสชาติมีความผิดปกติ
อาการ “ต่อมน้ำลายอักเสบ” อันตรายหรือไม่ ?
อาการต่อมน้ำลายอักเสบเป็นอาการที่สามารถรักษาด้วยตนเองได้หากอาการไม่รุนแรง แต่ถ้ามีอาการรุนแรงเช่น เกิดแผลพุพอง ใบหน้าปูดบวมอย่างหนัก หรือ ไม่สามารถทานอาหารได้เลย ควรทำการพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพราะคุณอาจจะเสี่ยงเป็นนิ่วบริเวณต่อมน้ำลายได้ หรือในบางรายที่มีอาการคอบวมแต่ไม่เกิดอาการเจ็บปวดอย่างเพิ่งวางใจไป ให้สังเกตว่าลำคอและคางของตนเองมีอาการบวมขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่เพราะคุณอาจจะเสี่ยงเป็นโรคเนื้องอก
การรักษาอาการ “ต่อมน้ำลายอักเสบ” มีกี่วิธี ?
- การใช้ยาปฏิชีวนะ มักจะใช้กับผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรงมาก เช่น มีอาการอักเสบบริเวณต่อมน้ำลายเพียงเล็กน้อย สามารถทานอาหารและใช้ชีวิตได้เกือบปกติ สามารถใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการบวมหรืออาการอักเสบ หากอาการมีดีขึ้นภายในหนึ่งอาทิตย์ควรรีบพบแพทย์ทันที
- การผ่าตัด มักจะใช้กับผู้ป่วยที่ต่อมน้ำลายอักเสบมีขนาดใหญ่ มีตุ่มหนองบริเวณช่องทาง ผู้ป่วยไม่สามารถทานอาหารและอ้าปากด้วยตนเองได้ แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำตุ่มหนองออก
- ปรับพฤติกรรมการกินน้ำ เน้นที่การดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันภาวะขนาดน้ำ แนะนำว่าควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพราะเป็นปริมาณที่เพียงพอกับร่างกาย ซึ่งภาวะขาดน้ำเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการต่อมน้ำลายอักเสบได้
- ปรับพฤติกรรมการกิน ควรเลือกกินอาหารที่สะอาด ถูกสุขอนามัย เพราะอาหารบางชนิดมีสารปนเปื้อนของแบคทีเรีย เกิดจากกระบวนการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด เป็นต้น จะพบได้ในอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักดอง หรือ ทะเลดอง
- รักษาสุขอนามัยของช่องปาก ทำความสะอาดช่องปากเสมอหลังจากทานอาหารเพื่อขจัดเศษอาหารที่อาจไปอุดตันตามซอกปาก หรือเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับอาหาร
- การประคบอุ่น หากใบหน้าเกิดอาการบวมจนผิดรูปสามารถประคบน้ำอุ่นเพื่อบรรเทาอาการบวมได้
โรคแทรกซ้อนที่มากับอาการ “ต่อมน้ำลายอักเสบ”
- คางทูม
- นิ่วบริเวณต่อมน้ำลาย
- ฝีบริเวณต่อมน้ำลาย
- ภาวะทางเดินหายใจผิดปากติ
- ใบหน้าผิดรูปจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
อาการต่อมน้ำลายอักเสบสามารถเกิดกับคนได้ทุกเพศ ทุกวัย โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่มักพบมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การทานอาหาร การดื่มน้ำ หรือ การรักษาความสะอาดบริเวณช่องปาก แม้จะดูเป็นอาการที่ไม่รุนแรงมากนัก แต่ถ้าเกิดอาการติดเชื้อจนอักเสบเป็นหนองจะทำให้ผู้ป่วยเกิดความเจ็บปวดและไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ดังนั้นเริ่มต้นด้วยการดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากอาการต่อมน้ำลายอักเสบง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หากใครที่พบว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป